home register login webboard classified artist review article member

 Music News :     “หมดเวลา” จากบทกวีสู่บทเพลง จากปลายปากกาของ “จิระนันท์ พิตรปรีชา”   15 มิ.ย. 53    

“หมดเวลา” จากบทกวีสู่บทเพลง
ร่วมสร้างวันใหม่ด้วยน้ำใจและพลังสร้างสรรค์
จากปลายปากกาของ “จิระนันท์ พิตรปรีชา”

จากเหตุการณ์รุนแรงและความสูญเสียเมื่อวันที่ 19-20 พฤษภา “จิระนันท์ พิตรปรีชา”
กวีซีไรต์ ได้ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านบทกวีทีลึกซึ้งกินใจ ดังเนื้อความว่า...

“หมดเวลา”
หมดเวลาแล้ว หมดเวลา จะต่างสีต่างศรัทธา หมดความหมาย
หมดเวลา ค่าของคนกล่นกระจาย นี่แหละคือภาพสุดท้าย สุดทางตัน

หมดเวลา หมดเวลามากล่าวโทษ หมดเวลาจะเกลียดโกรธ โหด ห้ำหั่น
ทุกสิ่งที่ไขว่คว้าต้องฆ่ากัน สลายวับกับม่านควัน โลกบรรลัย

ให้มันสิ้น ให้มันสุด หยุดตรงนี้ อย่าให้มีสิ่งใดเหลือ เพื่อวันใหม่
ขอพื้นที่กว้างกว้าง กลางใจไทย แล้วดับไฟ ปลูกสติ ผลิปัญญา

น้ำตาที่ตกใน เรียกน้ำใจให้คืนมา ร่วมก่อรอเวลา ลุกขึ้นมาประเทศไทย
น้ำตาช่วยดับไฟ น้ำใจจะดับควัน พรุ่งนี้คงมีวัน ให้รักกันประเทศไทย

ด้วยความประทับใจในแนวคิดของบทกวีที่ปลุกปลอบขวัญ ให้กำลังใจ และเสนอให้คนไทยรวมน้ำใจ
ร่วมกันสร้างสรรค์วันใหม่ด้วยน้ำใจและความรักสามัคคี เพื่อก้าวต่อไปข้างหน้า “ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว)
และ อาจารย์ ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี” ร่วมกับเพื่อนพ้องในวงการดนตรี จึงได้ร่วมมือกันสร้างสรรค์ให้บทกวีนี้เป็นบทเพลง
เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเผยแพร่

ศิลปินผู้สร้างสรรค์บทกวีและเสียงเพลงขออุทิศผลงานเพลงกวี “หมดเวลา” เพื่อสันติสุขของประเทศไทย และศิลปินท่านอื่นๆ
สามารถนำไปขับร้อง หรือ ใส่ทำนองดนตรีใหม่ เพื่อเผยแพร่ในลักษณะที่มิใช่เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจส่วนตัว
โดยไม่เรียกร้องค่าลิขสิทธิ์หรือค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ขอขอบพระคุณอย่างยิ่ง
มณี วงศ์วรเมธ (ฮั้ว) 081-6556611


จากใจกวี
บทกวี “หมดเวลา” เขียนขึ้นสดๆ จากเหตุการณ์วันที่ 20 พฤษภา อยากให้ทุกคนได้รับรู้ว่า แม้ประเทศชาติจะมีปัญหาใหญ่ๆ
ที่ต้องแก้ไขสะสางกันต่อไป แต่เราต้องสรุปบทเรียนด้วยว่า ความรุนแรงที่ทำให้ต้องสูญเสียด้วยกันทุกฝ่ายนั้นจะยุติลงอย่างแท้จริง
ก็ต่อเมื่อเราสงบสติอารมณ์ ยอมรับความแตกต่าง โดยไม่แตกแยก และร่วมมือกันประคับประคองให้สังคมไทยลุกขึ้นมาจากความบอบช้ำ

เมื่อบทกวีเผยแพร่ออกไปก็สามารถช่วยเยียวยาจิตใจผู้คนได้จำนวนหนึ่ง แต่งานกวีก็มีขอบเขตจำกัด ดิฉันจึงคิดว่าน่าจะทำเป็นเพลง
จึงได้ติดต่อศิลปินมาช่วยใส่ทำนองและขับร้อง รายแรกที่ตอบรับในทันทีคือ แอ๊ด คาราบาว กับอาจารย์ ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี
โดยได้ระดมทีมงานมาทำดนตรีและเข้าห้องอัดเสียงภายในวันเดียว (22 พฤษภาคม 2553)

อีกรายที่ใกล้เสร็จเป็นเพลงแล้ว ก็คือเวอร์ชั่นของ อรุณศักดิ์ อ่องละออ และศิลปินหน้ากาก ที่เคยทำเพลง “ถามคนไทย”
เมื่อเกิดเหตุวิกฤตสองปีก่อนและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ความร่วมมือจากเพื่อนๆ ที่ใจตรงกันยังไม่สิ้นสุดเพียงแค่นั้น ศิลปินอีกหลายท่านก็จะนำเนื้อเพลงนี้ไปใส่ทำนองและขับร้องในเวอร์ชั่นอื่นๆ
อีก ทั้งลูกทุ่ง ป๊อบ ร็อค มีอาสาสมัครมาช่วยตัดต่อมิวสิควิดีโอ ภาคธุรกิจเอกชนที่ทราบเรื่องก็จะช่วยผลิตแผ่นซีดี และบริการดาวน์โหลดฟรี
ทุกอย่างทุกคนช่วยกันทำ ไม่มีการแบ่งสีแบ่งค่าย ไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ค่าแรงใดๆ เพราะเราต้องการมีส่วนร่วมในการดับไฟแห่งอคติและความรุนแรง
น้ำตาแห่งความสูญเสีย และน้ำใจจากคนไทยด้วยกันเท่านั้นที่จะดับไฟนี้ลงได้ ดังวรรคหนึ่งของเนื้อเพลงที่ว่า
“ขอพื้นที่กว้างกว้างกลางใจไทย แล้วดับไฟ ปลูกสติ ผลิปัญญา”

ดิฉันจึงใคร่ขอความร่วมมือจากพี่น้องสื่อมวลชนทุกแขนง ในการเผยแพร่บทเพลงนี้ และจะส่งข่าว
ความคืบหน้าต่อไปว่าจะดาวน์โหลดฟรีในทุกรูปแบบของดิจิตอลดาวน์โหลดได้ที่ไหน หรือจะรับฟรีเป็นแผ่นซีดี
ได้ที่ไหนบ้าง ขอบคุณค่ะ

จิระนันท์ พิตรปรีชา
กวีซีไรต์
25 พ.ค. 2553




any comments, please e-mail   webmaster@drummerthai.com)
© All rights reserved 1999 - 2010. All contents in this web site are the properties of www.drumthai.com and Saratoon Suttaket