Pat Metheny Trio Live In Bangkok (At Bangkok Convention Centre)

By Acid Head & Indigo

---

มีคำพูดมากมายจากคนดูที่นับไม่ถ้วนในงานคอนเสริต์วันนั้นที่ต่างพูดถึงความเก่งกาจของมือกีต้าร์ผู้นี้อย่างไม่ขาดสาย หลังจากงานเลิก แต่ทั้งหมดนั้นมันคือความจริง ต้องบอกเลยว่าการที่ Pat Metheny มาเล่นในบ้านเราก่อนหน้านี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะไกลตัวอย่างยิ่ง มันเหมือนเป็นภาพลอยๆที่ยากเกินเอื้อม แต่แล้วก็กลับเป็นความจริงขึ้นมาได้ อีกทั้งยังได้เบสและกลองอย่าง Christian McBride และ Antoni Sanchez เพราะมีโปรโมเตอร์อย่าง AMI ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงนำคอนเสริต์ชั้นเยี่ยมเช่นนี้มาให้เราได้ดูกัน

---

เมื่อก้าวเท้าขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อจะเข้าสู่ชั้น 5 ของ Bangkok Convention Centre ก็พบพานกับนักดนตรีชั้นแนวหน้าของเมืองไทยอย่างมหาศาล โดยเฉพาะแนวแจ็ส อีกทั้งยังนักฟังเพลงทังคนไทยและต่างชาติที่มาดูคอนเสริต์นี้อย่างมากมาย งานวันนั้นเริ่มตรงเวลาครับ 19.30 เมื่อแสงไฟดับลงพร้อมกับชายหนุ่มหัวฟูฟองจากเมือง Missouri พร้อมกับการแต่งตัวง่ายๆ เสื้อแขนยาวลายทางกับยีนส์ ทั้งหมดนั้นเป็นภาพอย่างที่เคยเห็นจากในดีวีดีหรือวีดีโอในสมัยก่อน แต่วันนี้เขามายืนอยู่ข้างหน้าแล้ว เขาไม่รอเวลาหรือกล่าวอะไรแม้แต่น้อย นอกจากก้มหน้าพร้อมบรรเลงเพลง Last Train Home และเพลงต่อมา ก่อนที่จะหันมาใจไอ้เจ้า picasso กีต้าร์ 42 สายของเขา ไม่มีคำไหนจะบรรยายถึงความสุดยอดแล้วครับ นั่นก็เพราะมาจากแนวคิดในการเล่น การวอยส์คอร์ดที่เพราะเหลือหลาย และยังการเล่นกีต้าร์ 42 สายที่ผสมผสานเอาซาว์ดแบบตะวันตกและตะวันออกมารวมกันได้อย่างแนบเนียน และแล้วสิ่งที่ทุกคนรอคอยก็เริ่มต้นครับ รึทึ่มเซ็กชั่นของ Pat ก้าวเท้าออกมา เพื่อทำหน้าที่วง Trio อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้ง Christian และ Antonio ที่เป็นนักดนตรีดาวรุ่งโดยเฉพาะ Antonio ที่สุดๆแล้วครับ หลายๆคนน่าจะประทับใจการเล่นของเขาอย่างมาก พาร์ทกลองช่างสมบูรณ์แบบ ทั้งน้ำหนักและลูกส่งต่างๆ ยิ่งวิธีเล่น Stroke ยิ่งโชว์ความเก๋าของความเป็นระดับโลก

และก็เข้ามาสู่ช่วงที่เรียกว่าเป็นไฮไลต์ของงานครับ Pat เปิดฉากอีกครั้งด้วยเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้เขาเป็นอย่างมหาศาลจากอัลบั้มชุดแรก Bright Size Life ซาวด์นวลๆจากกีต้าร์ที่รอคอยมันช่างเพราะและลอยๆดีจริงๆ เรียกเสียงปรบมือจากแฟนเพลงได้ไม่น้อยทีเดียว และอีกหนึ่งเพลงที่คิดไม่ถึงทีเดียวครับว่าจะได้ฟังเพลงนี้นั้นคือเพลง Sirabhorn เป็นเพลงที่มาจากชุดแรกเช่นกัน เพลงนี้ค่อนข้างจะเป็นเพลงพิเศษของ Pat เลยครับ เพราะเขาแต่งเพลงนี้ให้กับเพื่อนสนิทชาวไทยคนหนึ่ง นั้นคือ ดอกเตอร์สิราภรณ์ มัณตราภรณ์ หรือที่เรารู้จักและเรียกกันว่า “ ดอกเตอร์กะทิ ” นั่นเองครับ Pat ยังเกริ่นนำนิดหน่อยถึงบทเพลงนี้ก่อนเล่นด้วยครับ ( น่าจะเกิดอาการเขินซักเล็กน้อย ) และอีกเพลงที่เป็นไฮไลต์เช่นกันนั้นคือเพลง Question & Answer ส่วนตัวผมแล้วทั้งเพลง Bright Size Life และ Question & Answer ในการเล่นสดในครั้งนี้ ผมคิดว่ามันเยี่ยมกว่าทุกครั้งเท่าที่เคยดูและฟังมา ด้วยเหตุผลหลักคือเขาคนนี้ได้มายืนเล่นอยู่ข้างหน้าเราแล้วครับ มันเกิดอาการขนลุกอย่างบอกไม่ถูกจริง เวลาผ่านไปราว 2 ชั่วโมงน่าจะได้ เร็วอย่างไม่น่าเชื่อครับ ก่อนจะจบลง Pat ได้ออกมาแถมให้อีกหนึ่งเพลงในช่วงอังกอร์อีกด้วยครับ และพอ Pat เล่นเสร็จยังออกมาแจกลายเซ็นอีกด้วยครับ ช่างอัธยาศัยดีจริงๆ ยิ้มตลอดเวลา เขายังบอกอีกว่าถ้าครั้งหน้าผ่านมาเล่นแถบนี้เขาจะแวะเล่นที่เมืองไทยอีกแน่นอน

---

ในส่วนของ Antonio และ Christian นั้นก็ไม่น้อยหน้าเจ้าของงานเช่นกัน ทุกครั้งที่ Pat เปิดให้ทั้งคู่โซโล่ก็ใส่กันไม่ยั้งเช่นกัน และอีกอย่างที่ผมอยากจะพูดถึงก็คือเรื่องเวทีครับ ทีมงานเซ็ทฉากได้เยี่ยมมาก ช่างเข้ากับบรรยากาศหน้าร้อนในเมืองไทยเหลือเกิน สวยดีครับ ซาวด์ในวันนั้นช่วงแรกออกจะไม่ค่อยบัลลานซักเท่าไหร่ แต่พอผ่านไปซัก 2 เพลง ทุกอย่างกลับมาเยี่ยมมาก อันนี้ต้องปรบมือดังๆให้กับคุณลุงซาวด์เอนจิเนีย์ครับ เก่งมาก ทั้งตัวศิลปินและทีมงานทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบครับสมกับเป็นนักดนตรีระดับโลกครับ งานทั้งหมดนี้ต้องขอขอบพระคุณบริษัท AMI เป็นอย่างสูง ที่นำคอนเสริต์ระดับโลกมาให้กับชาวไทยได้ชมกัน

---

นี่คือเซ็ทเพลงทั้งหมดที่ Pat เล่นครับ
SOLO

1 Last Train Home Lyle Mays & Pat Metheny
2 Song For The Boys Pat Metheny
3 Medley Pat Metheny
4 Into The Dream Pat Metheny

TRIO
5 So May It Secretly Begin Lyle Mays & Pat Metheny
6 Bright Size Life Pat Metheny
7 Thirteen Pat Metheny
8 Sirabhorn Pat Metheny
9 Question And Answer Pat Metheny
10 Night Turns Into Day Pat Metheny
11 Lone Jack Pat Metheny

ENCORE
Double Guatemala Pat Metheny sharing a breeze.

---