home register login webboard classified artist review article member

 Music News :     “โฮสเทส คลับ แบงค็อก” เตรียมระเบิดความมันส์ครั้งแรกในประเทศไทย   28 ม.ค. 58    






รวมพลคนปาร์ตี้ กับเทศกาลดนตรีอินดี้ชั้นนำ
“โฮสเทส คลับ แบงค็อก” เตรียมระเบิดความมันส์ครั้งแรกในประเทศไทย!

ไลฟ์ เนชั่น บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (Live Nation Bec-Tero) ร่วมกับ โฮสเทส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อันลิมิเต็ด (Hostess Entertainment Unlimited) บริษัทเพลงอินดี้ชั้นนำของเอเชีย เตรียมเปิดการแสดงสดที่ไม่เหมือนใคร ภายใต้ชื่อ “โฮสเทส คลับ แบงค็อก” (Hostess Club Bangkok) ในวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์นี้ ณ จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ เฮ้าส์ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ (GMM LIVE HOUSE @ Central World)

งานดนตรี โฮสเทส คลับ วีคเอนเดอร์ (Hostess Club Weekender) เป็นงานดนตรีที่จัดขึ้นปีละ 3 ครั้งที่กรุงโตเกียว และกลายเป็นงานแสดงดนตรีที่ได้รับความสนใจมากที่สุดงานหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เคยมีศิลปินทั้งที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีเข้าร่วมแสดงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แวมไพร์ วีคเอนด์ (Vampire Weekend), เดอร์ตีโปรเจคเตอร์ส (Dirty Projectors), ทราวิส (Travis), บล็อกปาร์ตี (Bloc Party), ฮ็อต ชิป (Hot Chip), สปิริตชัวไรซ์ (Spiritualized), ไดโนซอร์ จูเนียร์ (Dinosaur Jr), เชิร์ชเชส (Chvrches), โทรี่มัว (Toro Y Moi), นิวเทริล มิ้ลค์ โฮเทล (Neutral Milk Hotel), แบรนด์ ออฟ ฮอร์สเซส (Band of Horses), (ม็อกไว) Mogwai รวมถึง เดอะ เนชั่นแนล (The National) และด้วยความมุ่งมั่นที่จะเปิดการแสดงคุณภาพทั่วทั้งภูมิภาค โฮสเทส คลับ ได้ขยายการจัดการแสดงไปที่ฮ่องกง และไต้หวัน เมื่อปี 2012 สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ในปี 2014 ที่ผ่านมา การแสดงทั้งหมดนี้ ยังได้ศิลปินชื่อดังอย่าง ดอเทอร์ (Daughter), ยูธ ลากูน (Youth Lagoon), คิง ครูล (King Krule), เอาส์เกะ (Asgeir) และ บุคแอนด์เกส (Buke&Gase) มาร่วมสร้างความมันส์ให้กับแฟนเพลงในประเทศนั้นๆอีกด้วย
และในเดือนกุมภาพันธ์นี้ เป็นคิวของแฟนๆชาวไทย ที่จะได้ระเบิดความมันส์กันอย่างเต็มอิ่มเรียกได้ว่าอิ่มกันไปเลย 2 วันเต็มกับประสบการณ์ในรูปแบบมิวสิคเฟสติวัลแนวอินดี้ โดยในวันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ เตรียมระเบิดความมันส์กับ 3 วงอินดี้ชั้นแนวหน้าได้แก่

แบล แอนด์ เซบาสเตียน (Belle and Sebastian) วงอินดี้ป็อปที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในช่วงปี 1990 และ ปี 2000 จากเกาะอังกฤษ ด้วยอัลบั้มชุดที่ 3 ของเขาได้ขึ้นอันดับ 12 ของ ยูเคชาร์ต (UK Charts) และได้รับรางวัลศิลปินใหม่ยอดเยี่ยม จากเวที บริทอวอร์ด (Brit Award) ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับการจับตามองและเป็นที่รู้จักมาโดยมาตลอดและเป็นวงดนตรีที่ได้รับงานโฆษณามากมายอย่างน่า



แปลกใจ โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร ไม่ใช่แค่รางวัลเท่านั้น ซิงเกิ้ลของพวกเขายังติดอันดับเพลงฮิตในสถิติของกินเนสบุ๊ค อีกด้วย พวกเขาเคยขึ้นคอนเสิร์ตร่วมกับ เดอะ ลอสแอนเจลิส ฟิลฮาร์โมนิก (The Los Angeles Philharmonic) ที่มีผู้ชมกว่า 18,000 คนเข้าชมเต็มความจุของสนามฮอลลีวูดโบล์ (Hollywood Bowl) ในฤดูร้อนปี 2006 ทีเดียว

เดอะ เธอร์สตัน มัวร์ แบนด์ (The Thurston Moore Band) เป็นผู้ก่อตั้ง โซนิค ยูท (Sonic Youth) วงที่ทำให้วงการเพลงยุคใหม่ๆให้คุณค่ากับการลองสิ่งใหม่กับวงการเพลงร็อค แอนด์ โรลล์ ในทุกวันนี้ โดยอัลบั้มของเขาได้รับการยอมรับให้เป็นผลงานเพลงแห่งชาติในปี 2006 ของสหรัฐอเมริกา การแสดงของมัวร์ทั้งการบันทึกเสียงและแสดงสดครอบคุมไปถึงการอิมโพรไวซ์อย่างอิสระ อะคูสติกเวอร์ชั่น ไปจนถึงการใช้เทคนิค แบล็ค/ไวท์ เมทัล/นอยส์ ขั้นเทพ ที่ปฎิเสธไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ นอกจากกิจกรรมที่หลากหลายในวงการเพลงแล้ว เขายังมีส่วนร่วมในการทำสื่อสิ่งพิมพ์ บทกวี และสอนการเขียนในมหาวิทยาลัยนาโรป้า โบลเดอร์ (Naropa University, Boulder Co) สถาบันที่ก่อตั้งโดย อัลเลน กินส์เบิร์ก และ แอน วอล์ดแมน อีกด้วย เร็วๆนี้ เดอะ เธอร์สตัน มัวร์ แบนด์ (The Thurston Moore Band) จะเดินทางมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ เดอะ เบสต์ เดย์ (The Best Day) เพื่อโชว์พลังการเล่นกีต้าร์ไฟฟ้าและอะคูสติกตามสไตล์ของเธอร์สตันที่หาดูที่ไหนไม่ได้แน่ๆ

อีกหนึ่งวงคือ คาริบู (Caribou) หรือ แดน สนิธ (Dan Snaith) ศิลปินมากความสามารถชาวแคนาดากับแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ที่จะทำให้แฟนๆมันส์กันตลอดคืน ผลงานช่วงแรกของ แดน สนิธ (Dan Snaith) ใช้ชื่อในวงการว่า แมนิโทบา (Manitoba) และเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินดาวรุ่งแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ในช่วงต้นยุค 2000s เขามาพร้อมกับสองอัลบั้ม คืออัลบั้ม สตาร์ท เบรคกิ้ง มาย ฮาร์ท (Start Breaking My Heart) และ อัพ อิน เฟลมส์ (Up In Flames) ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลงทั่วโลกและเมื่อปี 2007 อัลบั้ม แอนโดร่า (Andorra) ชนะรางวัลแคนาดา 2008 โพลาริส มิวสิค (Canada’s 2008 Polaris Music) อีกด้วย ที่พลาดไม่ได้กับอัลบั้มล่าสุดอย่าง อาวเวอร์ เลิฟ (Our Love) และ ค้านท์ ดู วิทเอาต์ ยู (Can’t do without you) ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลที่เพิ่งปล่อยไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ในวันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ มันส์กันต่อกับอีก 3 วงอย่าง
เทมเพิลส์ (Temples) วงร็อคจากประเทศอังกฤษกับแนวเพลงไซคีเดลิค (Psychedelic) ที่กำลังมาแรงพร้อมกับซาวด์ที่แตกต่างแต่สามารถชวนคุณมากระโดดโลดเต้นตามไปได้อย่างสนุกสนาน เพลงของพวกเขาเป็นการผสมเพลงของวง มู้ฟ (Move) และ เบิร์ดส์ (Byrds) เข้ากับเพลงคลาสสิคของ เดอะบีทเทิลส์ (The Beatles) วงได้ตั้งขึ้นที่ เคทเทอร์ริ่ง ประกอบด้วยคู่หูนักร้องนักแต่งเพลงมากความสามารถ อย่าง เจมส์ แบกชอว์


(James Bagshaw) รับหน้าที่นักร้องและกีต้าร์ และ โธมัส วอร์มสลีย์ (Thomas Warmsley) นักร้องและมือเบส เทมเพิลส์ (Temples) ได้บันทึกเสียงซิงเกิลแรกของพวกเขา คือ เชลเตอร์ ซอง (Shelter Song) และโด่งดังอย่างมากในอินเตอร์เนต จนกระทั่งพวกเขาได้เซ็นสัญญากับค่าย เฮเวนลี่ เรคคอร์ดส์ (Heavenly Records) ในที่สุดอัลบั้มแรกของพวกเขา ซัน สตรักเจอร์ส (Sun Structures) กับการแต่งของ แบคชอว์ (Bagshaw) ได้ปล่อยออกไปเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาได้รับคำชื่นชมว่าเป็นวงหน้าใหม่ที่ดีที่สุดในอังกฤษ จากศิลปินชื่อดังอย่าง จอห์นนี มาร์ (Johnny Marr) และ โนล แกลลาเกอร์ (Noel Gallagher)

ทูน ยาร์ดส์ (tUnE-yArDs) มาพร้อมกับลีลาสุดเจ๋งของ เมอร์ริล การ์บัส (Merrill Garbus) นักร้องและนักดนตรีสาวที่เกิดและเติบโตทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา เพลงของเธอถือว่าเป็นเพลงแนว เวิล์ด บีท เอ็กซ์เพอริเมนทอล อินดี้ป๊อป และ โฟล์ก เข้าไว้ด้วยกัน เป็นอัลบั้มที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก และอัลบั้มที่ 3 ของเธอ นิกกี้ แน็ค (Nikki Nack) ขึ้นแท่นประสบความสำเร็จอย่างสวยงามหลังจากได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ชื่อดังอีกด้วย ทำให้หลายเพลงมีความโดดเด่นมากขึ้น อย่างเพลง ทู อาซ์ค มาเลย์ (To Ask Malay) ที่ได้ร่วมงานกับ แฟรงค์ โอเชียน (Frank Ocean) อลิเชีย คีย์ส (Alicia Keys) และ บิ๊ก บอย (Big Boi) และการทำผลงานเพลงร่วมกันกับโปรดิวเซอร์ จอห์น ฮิล (John Hill) ซึ่งเคยโปรดิวซ์ให้กับศิลปินชื่อดังอย่าง ริฮานนา (Rihanna) ชากิร่า (Shakira) เอ็ม ไอ เอ (M.I.A) มาแล้วด้วย

ปิดฉากความมันส์กันด้วย เรียล เอสเตท (Real Estate) อเมริกันอินดี้ร็อคอีกวงที่ไม่น่าพลาดก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 จากรัฐนิวเจอร์ซีย์ เรียล เอสเตท (Real Estate) มาพร้อมกับประสบการณ์ในการทัวร์ทั่วโลกมาแล้ว อย่างงานเฟสติวัลชื่อดังโคเชล่า (Coachella) และ พริมาเวร่า ซาวด์ (Primavera Sound) เป็นต้น การปล่อยอัลบั้ม เดอะ ซับเบอร์เบิล เบฟเวอเรจ 7 (the Suburban Beverage 7) ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นด้วยแนวเพลง เซอร์ฟี่ โล-ไฟป๊อบ จากนั้นพวกเขาได้เข้าร่วมค่าย โดมิโน เรคคอร์ดส์ (Domino Records) ในปี 2011 และได้ปล่อยอัลบั้มที่ 2 เดย์ส (Days) ออกมา ซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนเพลงอย่างมากมาย

ห้ามพลาด!! กับสุดยอดประสบการณ์ความมันส์กับเทศกาลดนตรีแนวอินดี้ “โฮสเทส คลับ แบงค็อค” (Hostess Club Bangkok) ที่จะระเบิดขึ้นในวันที่19 - 20 กุมภาพันธ์นี้ ณ จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์ เฮ้าส์ ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ (GMM LIVE HOUSE @ Central World) บัตรเข้าชมราคา 1,000 บาท ต่อวัน และพิเศษสำหรับบัตรเข้าชมทั้ง 2 วัน ในราคา 1,800 บาท เปิดจำหน่ายบัตรในวันศุกร์ที่ 30 มกราคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป จำหน่ายบัตรที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขาหรือ www.thaiticketmajor.com โทร. 0-2262-3838 ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่www.bectero.com, www.facebook.com/bectero




The Thurston Moore Band






Caribou






tUnE-yArDs






Belle & Sebastian





Real Estate






Temples






any comments, please e-mail   webmaster@drummerthai.com)
© All rights reserved 1999 - 2010. All contents in this web site are the properties of www.drumthai.com and Saratoon Suttaket