|
งานเปิดตัว Squier Olarn Signature Strat Series II 18 พ.ย. 56
|
ห้างดนตรีเบ๊เงียบเส็ง และ คุณโอฬารพรหมใจได้ จัดงานเปิดตัว Squier Olarn Signature Strat Series II ในวันพุธที่ 14 พฤศจิกายน 2556 และได้ รับเกียรติ จาก Fender ที่ได้ ส่ง ตัวแทนจาก Fender, MR.GRAHAM PERKIN, Director of Market Development, ASIA มาร่วมงาน เพื่อเปิด ตัวกีตาร์ Squier Olarn Signature Start Series II อย่างเป็นทางการ ซึ่งกีตาร์ รุ่นนี้ถือว่าเป็น กีตาร์รุ่น Signature รุ่นที่ 2 ของ พี่โอ้ โอฬาร
พี่โอ้ นั้น ถือว่าเป็น มือกีตาร์คนแรก ในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ รับเกียรติ เซ็นต์สัญญา กับ Fender เพื่อร่วมกันออกแบบกีตาร์ รุ่น Signatureภายใต้ Brand Squier โดยสัญญา ระหว่าง พี่โอ้ และ Fender นั้น ได้ เริ่มลงนามกันเมื่อ วันที่ 16 พฤศจิกายน ปี 2005 และ ในเดือน พฤศจิกายน ใน ปี 2013 นี้ พี่ โอ้และ ทาง Fender ได้มีระยะเวลาในการเซ็น สัญญา ระหว่างกัน เป็น ระยะเวลาถึง 8 ปี ซึ่ง ก็ ต้องถือว่าเป็น ความสัมพันธ์ ที่ยาวนาน อย่างมากทีเดียว
สรุปใจความสำคัญ ของถ้อยแถลงของ คุณ Graham ดังนี้
คุณ Graham ได้ กล่าวว่า Fender เลี่ยงไม่ได้ ที่ จะ กล่าวว่า มือกีตาร์ และ มือเบส ทั่วโลก นั้นมีส่วนสำคัญในการ สร้างประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของ Fender ซึ่งมือกีตาร์ และมือเบส เหล่านั้น ก็ อาศัยอยู่ ทั่วโลกในประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศ ในทวีปเอเชียด้วย โดย ศิลปินเหล่านั้น ก็ทำหน้าที่เป็นเหมือน ทูตทางดนตรีที่ คอยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ นักดนตรี และผู้ที่มีความสนใจทางด้านดนตรีอยู่ตลอด ซึ่งประเทศไทยก็ ถือได้ว่าเป็นประเทศ ที่มีความสนใจกับดนตรี และเครื่องดนตรี โดยเฉพาะ Brand Fender มาก เป็น อันดับต้นๆ ใน เอเชีย
คุณ Graham ก็ได้ กล่าวถึงวัย เด็กของเขาว่า เขาได้เติบโตในประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มี ประวิติศาสตร์เกี่ยวกับ ดนตรี มากมาย และ แน่นอนว่ามีนักดนตรีหลาย ๆ ท่านที่ เป็น แรงบันดาลในให้เขาทำให้เขาสนใจในดนตรีและมีความฝันอยากจะเป็นนักดนตรีตลอดจนมีความสนใจ ในกีตาร์ Fender คุณ Graham เล่าว่า ในสมัยก่อนอาจจะดูเหมือนเป็น เรื่องยากสำหรับเด็กตัวเล็ก ๆ ที่จะเริ่มเล่นดนตรีและเป็นเจ้าของเครื่องดนตรี เพราะ เครื่องดนตรี ส่วนมากจะมีราคาซื่งค่อนข้างสูง ซึ่งแตกต่างจากปัจจุบันที่ มีหลาย ๆ ยี่ห้อ ได้ ผลิตกีตาร์ ในราคาที่ถูกลงและที่สำคัญมีคุณภาพที่ดี อย่างเช่น Squier
Squier จะ มี marketing statement อยู่ 1 Statement ว่า Stop Dreaming, Start Playing เพราะ การจะเล่นดนตรีในสมัยนี้ คงจะ ไม่เป็นเพียงแค่ความฝันอีกต่อไป เพราะทุกท่านสามารถ หากีตาร์ ที่ราคาไม่สูง และ มีคุณภาพที่ดีได้ อย่างเช่น Squier
คุณ Graham ก็ได้ กล่าวอีกว่าวันนี้เขา รู้สึกเป็น เกียรติเป็น อย่างมากที่ ได้ มาร่วมงานในวันนี้และที่สำคัญได้ พบกับพี่โอ้ โอฬาร แล้วเขาก็ เชื่อว่า พี่โอ้ โอฬาร เป็น หนึ่งใน แรงบันดาลใจที่สำคัญของนักดนตรีชาวไทย รวมถึง เป็นแรงพลักดันที่สำคัญของวัฒนธรรมทางด้านดนตรีในประเทศไทย และคุณ Graham ก็ ขอแสดงความยินดีกับคุณโอฬาร สำหรับกีตาร์ รุ่นที่ 2 ที่ได้ ออกมาในวันนี้ และ ขอขอบพระคุณ พี่โอ้ โอฬาร ในการสนับสนุน และเป็น ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของ Squier ในวันนี้ คุณ Graham ได้เชิญชวนให้ทุกท่านร่วมแสดงความยินดี และ กับคุณโอฬารและ ทาง Squier มีความภูมิใจที่ จะ นำเสนอ กีตาร์ Signature รุ่นไหม่ของคุณโอฬาร ในวันนี้ และขอเปิดตัวอย่างเป็น ทางการสำหรับกีตาร์ Squier Olarn Signature Strat Series II
ที่มาของกีตาร์ Squier Olarn Signature Strat ทั้ง 2 รุ่น
พี่ โอ้ โอฬาร พรหมใจ เริ่มใช้ กีตาร์ Squier มาตั้งแต่ ปลายปี 90 โดย ได้ ให้เหตุ ผลว่าที่ สุด Classic ว่า Squier เป็นกีตาร์ที่ผลิตจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพและที่สำคัญกีตาร์ที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นกีตาร์ราคาแพงเสมอไป ประกอบกับ ความสามารถ ที่ต้องถือว่ามีเอกลักษณ์ และ ถือ ว่าเป็น อัฉริยะภาพ ทางด้านดนตรีของ พี่โอ้ โอฬาร ทำให้ Fender มีความสนใจ และ ได้เชิญ พี่โอ้ให้มาร่วมกัน ออกแบบกีตาร์ รุ่น Signature โดย กีตาร์ รุ่นแรก ได้ มีวางจำหน่ายตั้งแต่ ปี 2006
โดยกีตาร์รุ่นแรก นั้น มีการออกแบบให้มีเอกลักษณ์ ตามแบบฉบับ ของ พี่โอ้ มี Pickup ที่เป็น Mini Hum แบบ Blade Pickup มี Out Put ที่แรง Fingerboard เป็น Rosewood หัวโต เพราะให้ ความรู้สึกเหมือนกีตาร์ Vintage คอเป็นแบบ Soft V neck เพราะ จะเหมาะกันคนไทยซึ่งโดยส่วนมากจะมีมือขนาดเล็กกว่าคนตะวันตกและ สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างมากของกีตาร์ รุ่นนี้ คือ ไม่มี Tone จะมี Volume เพียงตัวเดียว โดย พี่โอ้ ให้เหตุผลว่า Tone สามารถปรับได้ ด้วยการน้ำหนักของการดีดสาย รวมถึงตำแหน่งในการดีดสาย โดย มีสีให้เลือ 4 สี คือBlack, White, Sunburst และ Natural และ ได้ มีการทำสี Limited Edition ออกมา 2 สี คือ Fiesta Red และ Daphne Blue และ ในต้นปี 2013 Fender และ พี่โอ้ก็ ได้ พูดคุยถึงกีตาร์ รุ่นที่ 2 กันอีก โดย คราวนี้ พี่ โอ้ ก็ มี idea ว่าสำหรับพี่โอ้แล้วมือกีตาร์ มักค้นหา สิ่งที่ มีความแตกต่างเพื่อสนองจินตนาการ ที่ไม่หยุดนิ่ง พี่โอ้จึงเสนอว่า เขาอยากให้กีตาร์รุ่นที่ 2 ของเขา เป็น คอ Maple บ้าง เพราะ เชื่อ ว่า Maple จะให้เสียงที่ใสชัด และ สะท้อนภาพกีตาร์ในยุคปี 50 พี่โอ้ ยังคงใช้ Headstock แบบ Large Headstock เพื่อให้ได้ Look แบบ Vintage และที่สำคัญยังมีส่วนช่วยในเรื่อง Sustain ของกีตาร์ได้อีกด้วย คอยังคงใช้เป็น Soft V แต่ให้เคลือบแบบด้านเพื่อเพิ่มความถนัดในการ เล่น โดยได้ design Pickup ให้เป็น Single-Coil Pole Piece โดยได้ Spec ให้ Sound มีความ Hot ในเรื่องของการ Control ยังคงมีเพียง Volume 1 ตัวแต่ ได้ เพิ่ม Push/Pull On/Off Switch ซึ่งเป็น Switch ที่จะเพิ่มความหลากหลาย ของเสียงกีตาร์ ทำให้มือกีตาร์สามารถปรับแต่ง Sound ได้หลากหลายมากขึ้น มีให้เลือก 3 สีWhite Blonde, Trans Blue และ Sunburst
|
|
|
